รีเซต
Sports Profile : ประวัติ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ชายผู้เป็นความหวังใหม่ของ แมนยู

Sports Profile : ประวัติ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ชายผู้เป็นความหวังใหม่ของ แมนยู

Sports Profile : ประวัติ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ชายผู้เป็นความหวังใหม่ของ แมนยู
BALLYSLAM
25 มกราคม 2564 ( 07:00 )
10K
2

ข้อมูลและประวัติล่าสุดของ บรูโน่ เฟอร์นันเดส กองกลางทีมชาติโปรตุเกส นักเตะที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมที่เล่นได้อย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : บรูโน่ มิเกล บอร์เกส แฟร์นานเดส (Bruno Miguel Borges Fernandes)

เกิด : 8 กันยายน 1994 (2537) ที่เมืองไมยา ประเทศโปรตุเกส

อายุ : 26 ปี

สัญชาติ : โปรตุเกส

ตำแหน่ง : กองกลาง

ส่วนสูง : 179 เซนติเมตร

เส้นทางลูกหนัง

เจ้าหนู บรูโน่ เฟอร์นันเดส เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอล กับสโมสร อินเฟสต้า โดยเจ้าตัวได้เข้ามาสู่ทีมเยาวชนในปี 2002-2004 จากนั้นเส้นทางลูกหนังของเจ้าตัวก็เริ่มไต่ระดับสูงขึ้น ในปี 2004 เมื่อได้ย้ายมาร่วมทีม เบาวิสต้า ซึ่งถือว่าเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงของลีกโปรตุเกส

ทว่าการเล่นอยู่ที่นี่ บรูโน่ ก็ยังเป็นเพียงแค่นักเตะเยาวชนของทีมเท่านั้น ยังไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้ จนกระทั่งปี 2005 เขาได้ถูกปล่อยยืมไปให้กับ ปาสตีไรล่า ในปี 2005 และอยู่ที่นั่นนานถึง 5 ปี เลยทีเดียว ก่อนจะย้ายกลับมายัง เบาวิสต้า อีกครั้งในปี 2010 และอยู่ที่นี่ต่ออีก 2 ปี

จนกระทั่งปี 2012 เส้นทางลูกหนังที่แท้จริง บททดสอบของจริงในอาชีพนักฟุตบอลของ บรูโน่ ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อ โนวาร่า ทีมลูกหนังในประเทศอิตาลี ได้เห็นแววบางอย่างในตัวเขา เลยตัดสินใจซื้อตัวเข้ามาร่วมทีม

จากนั้นเจ้าตัวก็ค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าจนขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของ โนวาร่า ได้ และในฤดูกาล 2012/2013 บรูโน่ ก็ได้ลงสนามเล่นให้กับทีมไปถึง 23 นัด แถมยังยิงได้อีก 4 ประตู อีกด้วย ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมากกับการย้ายมาเล่นในลีกต่างแดน

ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น และความมุ่งมั่นในการเล่น ทำให้ฟอร์มของเขาไปเข้าตาของแมวมอง อูดิเนเซ่ สโมสรชื่่อดังศึกกัลโช่ เซเรีย อา และเขาก็ได้ย้ายมาร่วมทีมในปี 2013 และกลายเป็นกำลังหลักของทีม และค้าแข้งอยู่ที่นานถึง 3 ปี ลงเล่นไปถึง 86 นัด และยิงได้ 10 ประตู

 

ปี 2016 ชีพจรลงเท้า บรูโน่ อีกครั้ง เมื่อเขาตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ ซามพ์โดเรีย สโมสรชื่อดังของลีกอิตาลี โดยในฤดูกาล 2016/2017 เขาลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่ไปถึง 33 นัด และยิงได้ 5 ประตู พาทีมจบอันดับ 10 ของตาราง ทว่าเจ้าตัวก็อยู่ค้าแข้งให้กับที่นี่ได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น เมื่อจบฤดูกาลนั้นแล้ว เขาก็ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการย้ายกลับบ้านเกิด ไปเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่ของลีกโปรตุเกส ซึ่งที่นี่เองที่สร้างให้เขากลายเป็นสุดยอดนักเตะของลีกยุโรป

บรูโน่ ย้ายมาค้าแข้งให้กับ สปอร์ติ้ง ในฤดูกาล 2017/2018 และเพียงฤดูกาลแรกเขาก็แจ้งเกิดแบบเต็มตัว เมื่อระเบิดตาข่ายคู่แข่งไปถึง 16 ประตู กับทำอีก 14 แอสซิสต์ จาการลงสนามทุกรายการ 56 นัด ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สุดยอดอย่างมาก เท่านั้นไม่พอ ในฤดูกาลต่อมา เจ้าตัวยังระเบิดฟอร์มการเล่นได้ดีกว่าเดิมอีก เมื่อยิงได้แบบระเบิดเถิดเทิงถึง 31 ประตู กับทำอีก 15 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 55 นัด และอย่าลืมว่าเขาเล่นในตำแหน่งกองกลาง ไม่ใช่กองหน้าของทีม

หลังจบ ฤดูกาล 2018/2019 มีข่าวออกมาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ให้ความสนใจที่จะดึงตัว บรูโน่ ไปร่วมทีม และว่ากันว่าเจ้าตัวเกือบจะได้ย้ายอยู่แล้ว แต่ตกลงเรื่องค่าตัวไม่ได้ทำให้ดีลนี้ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็ทำให้ดาวเตะโปรตุเกส ต้องค้าแข้งกับต้นสังกัดเดิมต่อไป แต่เจ้าตัวก็ยังทำผลงานสุดยอดอย่างต่อเนื่อง โดยเพียงแค่ครึ่งซีซั่นแรก เขาซัดไป 15 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ จาการลงสนาม 27 นัดให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน

และเมื่อถึงเดือนมกราคม ปี 2020 ฝันของสาวก "ปีศาจแดง" ก็เป็นจริง เมื่อ แมนยู ตัดสินใจทุ่มเงินคว้าตัว บรูโน่ มาร่วมทัพ ได้สำเร็จ และเพียงแค่การเข้ามาของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็ช่วยให้ยอดทีมแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลายเป็นคนละทีมกับเมื่อช่วงครึ่งซีซั่นแรก เขาเข้ามาช่วยยกระดับการเล่นของทีม ช่วยปลุกจิตวิญญาณนักสู้ และก้าวเข้ามาเป็นผู้นำของทีม จนเมื่อจบฤดูกาล ทีมก็สามารถจบอันดับที่ 3 คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างเหลือเชื่อ พร้อมกับที่เจ้าตัวก็ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร อีกด้วย ทั้งๆ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเล่นเพียงครึ่งฤดูกาลเท่านั้น

ผลงานทีมชาติโปรตุเกส

บรูโน่ เฟอร์นันเดส ได้เริ่มต้นการเล่นให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส ครั้งแรก ในระดับเยาวชน เมื่อปี 2012 ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จากนั้นก็ขยับขึ้นไปเล่น ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี รวมทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อีกด้วย

จนกระทั่งปี 2017 ที่เจ้าตัวย้ายมาค้าแข้งกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็ได้รับโอกาสสำคัญ เมื่อเขาถูกดันขึ้นไปเล่นให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก และได้ลงสนามเป็นเกมแรก จากการลงมาเป็นตัวสำรอง แทน มานูเอล แฟร์นานเดส ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมอุ่นเครื่องที่ โปรตุเกส เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย ไปขาดลอย 3-0 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017

จากฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม ฟอร์มที่ร้อนแรงกับการเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ทำให้ บรูโน่ ถูก เรียกไปติดทีมชาติโปรตุเกส ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้เป็นตัวหลักให้กับทีมชุดนั้น ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในแรกของรอบแบ่งกลุ่ม และถูกเปลี่ยนตัวออก และลงมาเป็นสำรองในนัดที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากนั้นก็ไม่ได้ลงสนามอีกเลย จนกระทั่งโปรตุเกส ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย จากการพ่ายแพ้ต่อ อุรุกวัย 1-2

 

ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ บรูโน่ ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 25 นัด ยิงได้ 2 ประตู และเจ้าตัวก็ยังเป็นนักเตะที่อยู่ในชุดคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อปี 2019 อีกด้วย

เกียรติประวัติ

รางวัลส่วนตัว :

นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกโปรตุเกส (6 ครั้ง)

นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกโปรตุเกส (7 ครั้ง)

นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของลีกโปรตุเกส ปี 2017/2018 , 2018/2019

ติดทีมยอดเยี่ยมของศึกยูโรปา ลีก ปี 2017/18 , 2018/2019

ติดทีมยอดเยี่ยมของศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ปี 2019

นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก (2 ครั้ง)

นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2019/2020

ดาวซัลโวศึกยูโรปา ลีก ปี 2019/2020

สปอร์ติ้ง ลิสบอน

แชมป์ โปรตุกีส คัพ ปี 2019

แชมป์ โปรตุกีส ลีก คัพ 2017/18 , 2018/19

-------------------------------------------------

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

Sports Profile : ประวัติ แกเร็ธ เบล ดาวเตะระดับปรากฏการณ์ของเวลส์

Sports Profile : ประวัติ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย

-------------------------------------------------

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

ยอดนิยมในตอนนี้